Tense 12 tense English to learn

*♫~ ♥♥--/--^^" ..♥♥ .•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥::: (_

 

Tense 12 tense English to learn

 

 

Tense แปลว่า “ กาล” หมายถึงการเรียนรู้รูปแบบของคำกริยา

ที่ไปแสดงถึงเหตุการณ์ หรือการกระทำต่างๆ ว่าได้เกิดขึ้นแล้ว

กำลังเกิดขึ้นอยู่ หรือว่ายังไม่ทันเกิดขึ้น หรือจบลงต่างกรรมต่างวาระ

กันอย่างไร ที่ไหน เมื่อไร

ในภาษาอังกฤษแบ่ง Tense ออกเป็น ๓ ประเภท คือ

1. Present Tense = ปัจจุบันกาล

2. Past Tense = อดีตกาล

3. Future Tense = อนาคตกาล

การเรียน Tense ให้เข้าใจง่ายรวดเร็ว ด้วยวิธีการง่ายๆ และใช้เวลา

ไม่นาน ขอให้นักศึกษาแยกขั้นตอนการเรียงลำดับ ดังนี้

1. จำชื่อ Tense ให้ได้ทั้งภาษาอังกฤษ และคำแปลภาษาไทย

2. จำโครงสร้าง (Structure) ของแต่ละ Tense ให้ได้อย่างแม่นยำ

(อย่าให้สับสน)

3. พยายามทำความเข้าใจให้ได้อย่างชัดแจ้งว่า แต่ละ Tense นั้น

ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระกันอย่างไร

 

«---<<·.¸¸.·´¯`·.¸¸.¤... ╬叮嚀╬--->>>

การท่องจำแบบง่ายๆ  ^^

 

 

 

สังเกตให้ดี จุดไข่ปลาหมายเลข 1 ให้เติมคำว่า Present , Past , Future

(ให้ว่าคำละสี่ครั้ง) ส่วนจุดไข่ปลาหมายเลข 2 ให้เติมคำว่า ปัจจุบันกาล,

อดีตกาล, และอนาคตกาล (ให้ว่าคำละสี่ครั้งเช่นกัน) โดยท่องสลับจับคู่

กันไปทั้งภาษาอังกฤษและคำแปลภาษาไทย สัก 3 - 4 ครั้ง ในที่สุดนัก

เรียนก็จำได้โดยอัตโนมัติเอง ขออย่างเดียวอย่าขี้เกียจก็แล้วกัน ขยันเข้าไว้นะค่ะ

 

                                                         ⊙●○①⊕◎Θ⊙¤㊣★::======>>

ตัวอย่างคำที่เติมแล้วเน้นสีให้ดู

Present Simple Tense ปัจจุบันกาล ธรรมดา (หัดเติมตามนี้ให้ชำนาญ)

โครงสร้างของ Tense 12 Tense

Present Tense ปัจจุบันกาล

Present Simple        : S + Verb 1 (ประธานเอกพจน์เติม S ) + …

Present Continuous : S + is, am, are + Verb 1 เติม ing +……..

Present Perfect       : S + have, has + Verb 3 + ………..

Present Perfect Conti. : S + have, has + been + Verb 1 เติม ing + ..

 

Past Tense อดีตกาล

Past Simple   : S + Verb 2 (เติม ed บ้าง ผันบ้าง ) + …

Past Continuous : S + was, were + Verb 1 เติม ing +…

Past Perfect  : S + had + Verb 3 + …

Past Perfect Conti. : S + had + been + Verb 1 เติม ing + …

Future Tense อนาคตกาล

Future Simple : S + will , shall + Verb 1 (ไม่เติมอะไร) + …

Future Continuous   : S + will , shall + be + Verb 1 เติม ing +……

Future Perfect : S + will , shall + have + Verb 3 + ……

Future Perfect Conti. : S + will , shall+have+been+Verb 1 เติม ing + …

แทรกคติเตือนใจ : อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ทุกอย่างทำเสียในวันนี้

เพราะวันพรุ่งนี้ไม่มีสำหรับทุกคน จริงดังว่า เพราะวันพรุ่งนี้พอพระ

อาทิตย์ขึ้นก็กลายเป็นวันนี้เสียแล้ว โอ้ช่างน่าเสียดายที่เราปล่อย

วันนี้ให้ผ่านพ้นไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลยเสียดายจริงๆ แก่ไปอีกวัน

แล้วเรา

ตัวอย่างประโยคสำเร็จของ Tense 12 Tense

Present Tense ปัจจุบันกาล

Present Simple                 = I go.                           

ผมไป

Present Continuous = I am going.                  

ผมกำลังไป

Present Perfect                 = I have gone.                

ผมได้ไปแล้ว 

Present Perfect Conti.       = I have been going.       

ผมได้กำลังไปแล้ว

Past Tense อดีตกาล

Past Simple                      = I went.                        

ผมไปแล้ว

Past Continuous                = I was going.                

ผมกำลังไปแล้ว

Past Perfect                      = I had gone.                  

ผมได้ไปแล้ว

Past Perfect Conti. = I had been going.         

ผมได้กำลังไปแล้ว

Future Tense อนาคตกาล

Future Simple                  = I shall go.          

ผมจะไป

Future Continuous            = I shall be going. 

ผมจะกำลังไป

Future Perfect                  = I shall have gone.         

ผมจะได้ไปแล้ว

Future Perfect Conti.        = I shall have been going.

ผมจะได้กำลังไปแล้ว

                                             ✘✚✪✣✤✥✦✧✩✫✬✭✮✯

 

อธิบายคำย่อ

 

S = ย่อมาจากคำเต็มว่า Subject แปลว่า ประธาน คือ

ตัวประธานในประโยค

Verb 3 = หมายถึง กริยาช่องที่ 3 เช่น go - went - gone

(gone เป็น Verb ช่องที่ 3)

Verb 2 = หมายถึง กริยาช่องที่ 2 ซึ่งมีทั้งรูปเติม ed เช่น open-opened ,

walk-walked (opened , walked เป็น Verb ช่องที่2 ) และ Verb

ช่อง 2 ที่เป็นรูปผันเช่น go-went , see-saw , (went , saw เป็น

Verb ช่องที่ 2 รูปผัน)

หมายเหตุ นักเรียนสังเกตให้ดี อาจารย์ ทำสีเป็นสัญลักษณ์ไว้ คือ

สีฟ้าอ่อน เป็น Present Tense ปัจจุบันกาล

สีเทา เป็น Past Tense อดีตกาล

สีม่วง เป็น Future Tense อนาคตกาล

                                    

 

 

 

 

 

*♫~ <-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸><((((º> ♫~*

 

ฝากคติเล็กๆน้อยให้แก่ผู้ที่รักการเรียนภาษาอังกฤษ (สู้ๆๆนะค่ะ)

 อย่าท้อถอย อย่าลืมว่า “ กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียวเสร็จ ”

แต่นั่นแหละคนงานสร้างทุกวันโดยไม่หยุด ในที่สุดกรุงโรมก็ได้ถูก

ก่อสร้างสำเร็จลงโดยง่ายดายในทำนองเดียวกัน การเรียนภาษาอังกฤษ

ไม่ได้เก่งในวันเดียว แต่ต้องค่อยท่องศัพท์ไปวันละนิดวันละหน่อยโดย

ไม่หยุด ในที่สุดท่านก็จะเก่งภาษาอังกฤษเองโดยอัตโนมัติ